วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

หลวงปู่อุ้ย สิริปัญโญ พระดีมีวิชา วาจาสิทธิ์

































หลวงปู่อุ้ย สิริปัญโญ พระดีมีวิชา วาจาสิทธิ์ 
เจ้าตำหรับน้ำมนต์ให้โชค (วิชาเอกสืบทอดจากหลวงพ่อเขียน สำนักขุนเณร )

คนคลองคล้า จะรู้ว่าในถิ่นนี้ มีที่นี่ ที่เป็นเสือไม่ขอเนื้อให้ใครกิน คนบ้านอื่นอาจจะหาพระดังๆกันให้ขวักมาติดตัว แต่คนบ้านนี้ ขอเป็นพระผงพระเหรียญแจกฟรีซักเหรียญ ของวัดคลองคล้า ก็เชื่อขนมกินได้แล้วไม่ต้องหาของแพง เป็นหมื่น เป็นแสน พระแจกฟรีของคลองคล้านี่แหละของจริง โดนกันมาเยอะ รถชนยับรอดมาได้ หมากัดไม่เข้า แคล้วคลาดเยอะชนิดที่ลูกศิษย์วัดคลองคล้า ไม่มีใครตายโหงก็แล้วกัน เรื่องมาดังก็ตอนหลวงปู่อุ้ยสร้างพระอุปคุตช่วยคน พระอุปคุตโด่งดังเป็นพลุแตก หลายคนประสบความสำเร็จด้วยพระอุปคุตของหลวงปู่อุ้ย เลยรู้ว่าที่นี่มีของดี ยิ่งหลวงปู่อุ้ย มีครูดี จะทำอะไร ท่านทำจริง เสกจริง ไม่เอาเงินทอง ช่วยคนอย่างเดียว พระของท่าน ท่านไม่บอกว่าดีหรือไม่ดี ท่านจะให้เอาไปใช้ก่อน ถึงที่ถึงกาลเห็นเอง

กิตติคุณหลวงปู่มีมาก ให้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอย่าเชื่อหมด มากราบหลวงปู่ก่อน ถ้าท่านได้ใช้จะรู้ว่าเป็นอย่างไร ถึงตอนนั้นค่อยเชื่อ หรือไม่เชื่อก็ไม่เสียหาย ของท่านมีคุณกับคนดี คนไม่ดีพยายามทำตัวเป็นคนดีก็มีผล คุณวิเศษของคนที่เข้ามากราบหลวงปู่อุ้ยที่วัดแล้วเจอกับตัว

ปากท่านประกาศิต บอกดีก็ดีจริง ท่านไม่ค่อยพูด ถ้าพูดเป็นดั่งปากท่านทุกครั้ง ท่านเคยบอก คนเป็นพระ ต้องทรงศีลบริสุทธิ์ ทำข้อวัตรปฏิบัตเคร่งครัดจริงขอให้ทำให้ถึง ปากพระร่วงทุกองค์

จารแผ่นทองแผ่นเดียวแล้วเป่า ติดหมดทั้งสิบแผ่น สมัยก่อนคนเอาแผ่นทองมาให้หลวงพ่อเขียน สำนักขุนเณรลงให้ ท่านเป่าแผ่นทองทีเดียวมียันต์ติดทุกแผ่นเกิดขึ้นมาแล้ว

น้ำมนต์ อาบแล้วรวย น้ำมนต์ที่ขลังที่สุดในประเทศไทย ต้องยกให้หลวงปู่เขียน สำนักขุนเณร ใครอาบกลับไปรวยทุกราย หากใครมีเคราะห์ซ้ำกรรมซัดมา อาบแล้วดีขึ้นกันทุกคน หลวงปู่ท่านสำเร็จวิชาทำน้ำมนต์จากหลวงปู่เขียน มาครบสูตร จึงไม่แปลกที่ใครมาอาบน้ำมนต์กลับไปแล้วรวย รวย รวย คนไหนกรรมหนัก ชะตาตก อาบแล้วชีวิตดีขึ้นทันตาเห็น

รู้ล่วงหน้ามีคนไกลจะมา หลวงปู่ไม่ค่อยออกไปเสกพระนอกวัด มีเจ้าของงานมามานิมนต์ หลวงปู่ท่านก็ปฏิเสธไป พระผู้ใหญ่ท่านมานิมนต์ท่านก็เลยบอกไปว่า ให้ท่านเจ้าอาวาสท่านมาเองแล้วกัน วันที่เจ้าอาวาสเดินทางมานิมนต์ด้วยตัวเอง หลวงปู่ท่านก็นั่งรอ ท่านบอกพระว่า บ่ายแก่ๆ วันนี้ จะมีเจ้าอาวาสดัง ท่านจะมานิมนต์ เจ้าอาวาสองค์นี้ท่านก็มาจริง มาโดยไม่ได้บอกใคร ทางวัดคลองคล้าก็ไม่มีใครทราบเรื่อง มีคนจากนราธิวาสเดินทางมาอาบน้ำมนต์โดยตรง หลวงปู่ท่านก็นั่งรอจนเย็น จนค่ำ พระที่วัดก็ถามว่า รอใครกัน หลวงปู่บอกว่า จะมีคนทางใต้มาอาบน้ำมนต์ รอเขาหน่อย เดี๋ยวเขาจะเสียกำลังใจที่มา สักพักก็โผล่จริงๆ แล้วหลวงปู่รู้ยังไงล่ะนี่

รอดเพราะเหรียญรุ่นแรก นักเรียนอาชีวะศึกษาชนแดน ขับรถด้วยความคึกคะนอง ขับเร็วแซงทางโค้งบ้านวังลาด มีรถสวนมา นักเรียนคนขับจึงหักหลบลงข้างทาง ปรากฏว่า กระเด็นไปตกกอกล้วย นักเรียนคนนี้เล่าว่า เหมือนกอกล้วยมาโอบกอดรัดไว้อย่างไวและนุ่มนวล แต่กอกล้วยก็ราบไป ร่างกายไม่เป็นอะไรเลย แถมรถก็ไม่มีแม้รอย อย่างนี้เรียกแคล้วคลาดหรือไม่

เสกปลัดไม้วิ่งได้ การทดสอบจิต สมัยหนุ่มๆ หลวงปู่หวาน ท่านสอนว่า พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ มีคุณมากประมาทมิได้ ทำให้ถึงอย่างเดียว ว่าแล้วท่านก็ หยิบกิ่งมะขามที่หักตามพื้นดินมา แกะเป็นปลัดไม้ แกะยังไม่ทันเสร็จดี ปลัดไม้มะขามวิ่งออกจากมือ นี่ลองกันมาแล้ว ขอให้จิตดีเป็นที่ตั้ง เคารพพระรัตนตรัยคุณครูบาอาจารย์

ลูกศิษย์หลวงปู่อุ้ย ที่อยู่ต่างประเทศ ฝันเห็นหลวงปู่มาโปรดบิณฑบาตตอนเช้า หลังจากตื่นมา เห็นข้าวของที่วางอยู่เหมือนเพิ่งใส่บาตรพระไปหมาด ๆ รู้สึก งง ว่า เป็นเรื่องจริง หรือความฝัน

สรุปอย่าเพิ่งเชื่อ ให้เชื่อพระรัตนตรัย และครูบาอาจารย์เก่าๆ ท่านทำได้ ท่านทำถึง หลวงปู่ท่านบอกว่า เราเป็นเพียงกระพี้เท่านั้น ได้เศษเสี้ยวกระพี้ หรือ แก่นของครูบาอาจารย์หรือเปล่าก็ไม่รู้ ???....!!!!

กราบกราบกราบแทบเท้า หลวงปู่อุ้ย สิริปัญโญ พระผู้มีเมตตาของลูกศิษย์ลูกหาทุกคน

หลวงปู่ท่านไม่เคยแบ่งชนชั้นวรรณะ ใครเข้าหาง่าย กราบได้สนิทใจ  

หลวงปู่อุ้ย สิริปัญโญ พระดีมีวิชา สมดั่งที่หลวงปู่เขียน วัดสำนักขุนเณร จังหวัดพิจิตร ท่านการันตีว่า “ ศิษย์เราได้อภิญญาหน่อ ” หลวงปู่อุ้ย ปัจจุบันสิริอายุ 85 ปี ( พศ.2559 )  สำเร็จธรรมจากหลวงปู่เขียน สำนักขุนเณร ตั้งแต่เป็นสามเณร บีบนวด ขัดพื้น ขุดดิน ล้างบาตร ถวายหลวงปู่เขียนตั้งแต่ยังเด็ก หลวงปู่ขียนชอบใจ จับมาสอนหลักธรรม วิปัสสนาธุระ กรรมฐาน จนสามเณรบังเกิดรัศมีกาย มีอะไรดี หลวงปู่เขียนถ่ายทอดวิทยาคมให้ทั้งหมด อย่างไม่ปิดบัง กว่าจะเรียนสำเร็จก็โดนไม้ตะพดเคาะกระหม่อมไปไม่น้อย หลวงปู่เขียนพอใจ วิชาสำนักขุนเณรมีตัวแทนแล้ว ท่านฝากฝังเอาไว้ “ ให้ช่วยเหลือคน อย่าละทิ้งการสงเคราะห์ เป็นหน้าที่ของเอ็งหน่อ ” เมื่อสิ้นหลวงพ่อเขียน แล้ว

หลวงปู่อุ้ย ก็ออกธุดงค์มาพบกับ หลวงปู่หวาน แห่งวัดคลองคล้า จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้เป็นน้องหลวงพ่อเดิม แห่งวัดหนองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์ ยกให้เป็นพระอภิญญาใหญ่ เนรมิตร่างกายเป็น เสือ เป็นจระเข้ ได้ หลวงพ่อหวาน มีนิสัยแปลกประหลาด ไม่ชอบอยู่วัด ถือธุดงค์ตลอดชีวิต พบปะพระอภิญญามาทั้งแผ่นดิน หลวงปู่อุ้ย ก็อยากลองกำลังใจ ออกธุดงค์ร่วมกัน ได้พบได้เจอ ของดี ของแปลกมา สารพัดสารพัน ยิ่งทำให้จิตของท่าน สว่าง ถ่องแท้ เข้มแข็งดุจเพชร ภูเขาลูกใด ที่ว่าแน่ๆ มีอาถรรพ์ หรือ ผีดุ หลวงปู่หวาน หลวงปู่อุ้ย เดินมาหมดแล้ว ระหว่างธุดงค์นั้น หลวงปู่หวาน ท่านสอนวิชาที่ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ให้หมดพุง หลวงปู่หวาน ออกปากชมเปราะ “ วิชาของฉัน มอบให้ใครไป ไม่มีใครรับไปได้ทั้งหมด มีแต่ท่านองค์เดียว ” หลังหลวงปู่หวาน สิ้นไปแล้ว

หลวงปู่อุ้ย เดินทางมาวัดน้ำพุสามัคคี เพื่อกราบนมัสการหลวงปู่พวง วัดน้ำพุสามัคคี เทพเจ้าแห่งเทือกเขารัง เป็นอาจารย์องค์ที่สาม หลวงปู่อุ้ยอยู่กับหลวงปู่พวง นานหลายพรรษา เพื่อฝึกจิต หลวงปู่พวง ปกติไม่ค่อยรับศิษย์ ท่านเห็นว่าหลวงปู่อุ้ย จิตกล้าแข็ง วิชามีเยอะ จึงให้รับขันธ์ สอนวิชาขั้นสูง ต่อยอดให้จนเต็ม เมื่อเรียนครบถ้วนกระบวนความ หลวงปู่พวงท่านบอกว่า “ ครูเก่าสอนมาดี อีกไม่นานบารมีท่านจะเต็มแล้ว ผู้คนจะหลั่งไหลเข้าวัดคลองคล้าจำนวนมาก ” เป็นจริงดั่งปากหลวงปู่พวง ทุกวันนี้ศิษยานุศิษย์หลั่งไหลมาเหมือนสายน้ำ จนทางวัดไม่มีสถานที่เพียงพอที่จะรับแขก
ขอเล่าเป็นน้ำจิ้มเพียงเท่านี้ อยากรู้ต้องมาสำผัสด้วยตัวเอง
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น